ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย ทุกครั้งเมื่อจ่ายเงินหรือไม่ จะรู้ได้อย่างไรบ้าง?
หน้าที่ตามกฎหมายเรื่องหนึ่ง ที่ต้องระมัดระวัง คือ การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เมื่อมีการจ่ายเงินได้ให้แก่ผู้มีเงินได้และเข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องหักภาษี หากปฏิบัติไม่ครบถ้วนถูกต้อง ผู้จ่ายเงินต้องรับผิดร่วมกับผู้มีเงินได้ในการเสียภาษีที่ต้องชำระตามจำนวนเงินภาษีที่ไม่ได้หักและนำส่ง หรือตามจำนวนเงินที่ขาดไป ตาม คำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป. 91/2542 เรื่อง ความรับผิดเกี่ยวกับการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส มาตรา 50 มาตรา 69 ทวิ และการหักภาษี ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องหักภาษีหรือไม่? โดยให้เริ่มดูจาก 3 เรื่องหลักเป็นอันดับแรก คือ ผู้จ่ายเงินได้, ผู้มีเงินได้ (ผู้รับเงิน) และ ประเภทเงินได้ที่จ่าย หากเข้าหลักเกณฑ์ ผู้จ่ายเงินได้ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายเพื่อนำส่งกรมสรรพากร
1. ผู้จ่ายเงินได้ กฎหมายกำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้ในบางกรณี ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย (เมื่อจ่ายเงิน)
- ผู้จ่ายเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องหักภาษีบางกรณี เช่น นายจ้างจ่ายเงินเดือนลูกจ้าง (หากคำนวณแล้วถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี) รางวัลในการประกวด การแข่งขัน การชิงโชค ค่าสิทธิ ดอกเบี้ยที่จ่ายให้ผู้รับเงินที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เป็นต้น แต่โดยภาพรวมแทบจะเรียกได้ว่า บุคคลธรรมดาแทบจะไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
- ผู้จ่ายเงินได้ที่เป็นนิติบุคคล เช่น หจก. บริษัท มูลนิธิ สมาคม เป็นต้น เมื่อจ่ายเงินได้ค่าจ้างค่าบริการ และค่าซื้อสินค้าบางประเภท ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่า อาจจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
2. ผู้มีเงินได้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ (ผู้รับเงิน)
- ผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดา ทั้งที่เป็นลูกจ้าง Freelance หรือเป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นหน่วยธุรกิจ รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ และผู้รับซึ่งไม่ได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทยในบางกรณี
- ผู้มีเงินได้ที่เป็นนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล บริษัท บริษัทมหาชน มูลนิธิสมาคมที่ไม่ใช่สถานสาธารณะกุศล นิติบุคคลต่างประเทศบางกรณี ฯลฯ
หากผู้มีเงินได้ หรือผู้รับเงิน เป็นผู้มีเงินได้ที่ไม่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ (ด้านล่าง) ผู้จ่ายเงินได้ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
(ภาษีเงินได้ที่ถูกหักไว้ล่วงหน้า ผู้มีเงินได้มีสิทธิขอคืนได้เมื่อยื่นแบบฯ ประจำปี)
3. ประเภทเงินได้พึงประเมิน เงินได้หลายประเภทถูกกำหนดให้ต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างค่าบริการ
- ค่าจ้างค่าบริการ เช่น ค่าขนส่ง ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าโฆษณา ค่าสิทธิ ค่าบริการ ค่าจ้าง ค่าวิชาชีพ ค่าจ้างเหมาก่อสร้าง ส่วนลดส่งเสริมการขาย ค่าเช่า รางวัล นักแสดง เงินปันผล ดอกเบี้ย (แต่ไม่รวมถึง ค่าบริการของโรงแรม ค่าบริการของภัตตาคาร และค่าเบี้ยประกันชีวิต) เป็นต้น
- ค่าซื้อสินค้า เช่น ข้าว พืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ อัญมณีที่ยังมิได้เจียระไน เป็นต้น
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กฎกระทรวง ฉบับที่ 144 (พ.ศ. 2522) กำหนดการคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามประเภทเงินได้พึงประเมิน
นิติบุคคลที่ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้
โดยหลักทั่วไป ผู้มีเงินได้จะต้องเสียภาษีเงินได้ แต่ก็มีข้อยกเว้น ตามบทบัญญัติของกฎหมายต่าง ๆ เช่น นิติบุคคลอื่น ๆ ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย เช่น กระทรวง ทบวง กรม องค์การของรัฐบาล สหกรณ์ เป็นต้น รวมถึงนิติบุคคลบางประเภทที่เข้าลักษณะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร
(1) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ตามสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หรือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ
(2) บริษัทจำกัดที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
(3) บริษัทจำกัดและนิติบุคคลที่มีสภาพเช่นเดียวกับบริษัทจำกัดซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่าง ประเทศได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม
(4) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่อยู่ในประเทศที่มีอนุสัญญาว่าด้วยการเว้นการเก็บภาษีซ้อนกับประเทศไทย ตามเงื่อนไขที่กำหนดในอนุสัญญา
สำหรับอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่ต้องคำนวณหักภาษีแต่ละประเภทเงินได้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ...อัตราภาษีที่ต้องคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย